Devahoy Logo
PublishedAt

Android

Day 28 - WeatherLib

Day 28 - WeatherLib

สวัสดีครับ บทความนี้เป็นบทความที่ 29 แล้วนะครับ ที่ผมจะมาเขียน ในซีรีย์ Learn 30 Android Libraries in 30 days

สำหรับบทความทั้งหมด อ่านได้จากด้านล่างครับ

สำหรับวันนี้ขอนำเสนอเรื่อง WeatherLib

WeatherLib เป็น Library ที่เอาไว้ช่วยทำแอพ Weather เหมาะกับคนต้องการนำไปพัฒนาเพื่อตรวจสอบสภาพอากาศ แค่ใช้ Library ตัวนี้ เราไม่ต้องไปกังวลเรื่อง request/response หรือว่า API จาก server จากผู้ให้บริการ เราสามารถโฟกัสแค่โค๊ดของเรา ส่วนผู้ให้บริการเรื่องสภาพอากาศ ใน WeatherLib ประกอบไปด้วย

ปกติเวลาเราต้องใช้งานพวก API จากด้านบน เราต้องขอ API แล้วดู Docs ของแต่ละเจ้า แต่ถ้าใช้ Weatherlib เราใช้โค๊ดเดียวกัน โครงสร้างเดียวกัน ใช้ได้ทุก Server เลย

จุดเด่นของ WeatherLib อย่างเช่น

  • HTTP Request/response จะทำคนละ thread กับ Main UI Thread
  • ค้นหาสภาพอากาศตามชื่อเมือง ชื่อประเทศได้
  • ค้นหาสภาพอากาศตาม Latitude, Longitude
  • ค้นหาสภาพอากาศปัจจุบัน/ สภาพอากาศย้อนหลัง

Installation

ขั้นตอนการติดตั้ง เปิดไฟล์ build.gradle ขึ้นมา แล้วเพิ่ม dependencies ลงไปดังนี้

1
dependencies {
2
compile 'com.survivingwithandroid:weatherlib:1.5.2'
3
compile 'com.survivingwithandroid:weatherlib_volleyclient:1.5.2'
4
compile 'com.mcxiaoke.volley:library:1.0.6@aar'
5
}

กด Sync Gradle เป็นอันเรียบร้อย

Usage

การใช้งาน WeatherLib มีคลาสที่จำเป็นดังนี้

  • WeatherClient.ClientBuilder : เป็นเหมือนตัว Builder เอาไว้สร้าง instance ของ WeatherLib ที่ใช้ภายในแอพ
  • WeatherConfig : ตัว config เช่น พวก API_KEY (บาง Provider จะต้องทำการขอ API ด้วย)
  • WeatherClient : เป็นเหมือนคลาสหลัก ที่เอาไวจัดการทุกๆอย่างของ WeatherLib เช่นค้นหาสภาพอากาศปัจจุบัน ค้นหาเมือง ดูสภาพอากาศย้อนหลัง

สเตปการสร้าง เริ่มต้นด้วยการสร้าง

1
WeatherClient.ClientBuilder builder = new WeatherClient.ClientBuilder();
2
3
WeatherClient mClient = new WeatherClient.ClientBuilder()
4
.attach(this)
5
.provider(new OpenweathermapProviderType())
6
.httpClient(WeatherClientDefault.class)
7
.config(new WeatherConfig())
8
.build();

ทำการสร้าง WeatherClient จากตัว ClientBuilder ส่วน pamameter แต่ละตัวมีดังนี้ครับ ตัวที่ 1 : .attach() คือ Context ตัวที่ 2 provider() คือชื่อของ Provider ที่ให้บริการ มีทั้งหมด 4 ชนิด

  • Openweathermap -> OpenweathermapProviderType
  • Yahoo! Weather -> YahooWeatherProviderType
  • Weatherundergroung -> WeatherundergroundProviderType
  • Forecast.io -> ForecastIOProviderType

ตัวที่ 3 httpClient() เป็น HTTP Client ที่ WeatherLibs ใช้ระหว่าง Volley กับ OkHttp แต่ว่าตอนแรก เราใส่ dependencies ของ Volley ไป ฉะนั้นตัวนี้ก็จะใช้ WeatherDefaultClient ของ Volley ตัวที่ 4 เป็น WeatherConfig()

ส่วนเมธอดภายใน WeatherClient ที่สามารถใช้ได้มีดังนี้

  • getCurrentCondition()
  • getForecastWeather()
  • getHistoricalWeather()
  • getHourForecastWeather()
  • getDefaultProviderImage()
  • getWeatherImage()

มาลองสร้างโปรเจ็คลองดูดีกว่าครับ

Create Project

เริ่มแรกผมทำการสร้างคลาส Activity ขึ้นมา 1 คลาส ทำการ extends ListActivity เพื่อจะใช้ built-in ListView เลย ฉะนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Layout ตัวคลาสมีดังนี้

1
package com.devahoy.learn30androidlibraries.day28;
2
3
import android.app.ListActivity;
4
import android.os.Bundle;
5
import android.util.Log;
6
import android.widget.ArrayAdapter;
7
8
import com.survivingwithandroid.weather.lib.WeatherClient;
9
import com.survivingwithandroid.weather.lib.WeatherConfig;
10
import com.survivingwithandroid.weather.lib.client.volley.WeatherClientDefault;
11
import com.survivingwithandroid.weather.lib.provider.openweathermap.OpenweathermapProviderType;
12
import com.survivingwithandroid.weather.lib.request.WeatherRequest;
13
14
public class WeatherActivity extends ListActivity {
15
16
private String TAG = WeatherActivity.class.getSimpleName();
17
18
private WeatherClient mClient;
19
private ArrayAdapter<String> mAdapter;
20
21
@Override
22
protected void onCreate(Bundle savedInstanceState) {
23
super.onCreate(savedInstanceState);
24
25
/* WeatherConfig config = new WeatherConfig();
26
// config.ApiKey = "YOUR_API_KEY";*/
27
28
try {
29
mClient = new WeatherClient.ClientBuilder()
30
.attach(this)
31
.provider(new OpenweathermapProviderType())
32
.httpClient(WeatherClientDefault.class)
33
.config(new WeatherConfig())
34
.build();
35
36
} catch (Exception e) {
37
// Some error
38
Log.i(TAG, e.getMessage());
39
}
40
41
// YAHOO : Bangkok = 1225448
42
// OpenWeatherMap : Bangkok = 1609350
43
final WeatherRequest request = new WeatherRequest("1609350");
44
}
45
}

โค๊ดด้านบนเป็นการสร้าง WeatherClient ขึ้นมา โดยขั้นแรก ผมจะทำการดึงข้อมูล พยากรณ์อากาศล่วงหน้า ในกรุงเทพ ฉะนั้นก็จะใช้เมธอด getForecastWeather() โดยมีโครงสร้างการใช้ดังนี้

1
mClient.getForecastWeather(WeatherRequest, ForecastWeatherEventListener);

ตัวแรกคือ WeatherRequest ระบุ cityId ของเมืองนั้นๆ ในส่วนนี้หาได้จากเมธอด searchCity หรือ searchCityByLocation ส่วนอีกอันคือ Listener ที่จะส่งค่ากลับมา เมื่อมีการทำงานเสร็จสิ้น สุดท้าย จะได้โครงสร้างสมบูรณ์แบบนี้

1
mClient.getForecastWeather(request, new WeatherClient.ForecastWeatherEventListener() {
2
@Override
3
public void onWeatherRetrieved(WeatherForecast weatherForecast) {
4
List<String> dataset = new ArrayList<String>();
5
List<DayForecast> forecases = weatherForecast.getForecast();
6
for (DayForecast forecast : forecases) {
7
String result = forecast.weather.location.getCity() + " : Max: " +
8
Math.round(forecast.forecastTemp.max) + " Min: " +
9
Math.round(forecast.forecastTemp.min) + " Detail: " +
10
forecast.weather.currentCondition.getDescr();
11
dataset.add(result);
12
}
13
getListView().setBackgroundColor(Color.parseColor("#26B895"));
14
getListView().setDividerHeight(2);
15
mAdapter = new ArrayAdapter<String>(getApplicationContext(),
16
android.R.layout.simple_list_item_1, dataset);
17
setListAdapter(mAdapter);
18
19
20
}
21
22
@Override
23
public void onWeatherError(WeatherLibException e) {
24
Log.e(TAG, e.getMessage());
25
}
26
27
@Override
28
public void onConnectionError(Throwable throwable) {
29
30
}
31
});

โค๊ดด้านบน เมื่อ เรารีเควสขอ สภาพอากาศของกรุงเทพไป ก็จะได้ผลลัพธ์กลับมาเป็น WeatherForecast จากนั้นก็ นำข้อมูล City และ อุณหภูมิ ใส่ใน ListView จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

Result

ส่วนอีกเมธอดนึง เอาไว้สำหรับดึงข้อมูลสภาพอากาศปัจจุบันเลย ด้วยเมธอด getCurrentCondition()

1
mClient.getCurrentCondition(request, new WeatherClient.WeatherEventListener() {
2
@Override
3
public void onWeatherRetrieved(CurrentWeather cWeather) {
4
Weather weather = cWeather.weather;
5
6
Location location = weather.location;
7
Weather.Temperature temperature = weather.temperature;
8
9
Log.i(TAG, "City : " + location.getCity() +
10
" Country : " + location.getCountry());
11
Log.i(TAG, "Temp : " + temperature.getTemp());
12
13
}
14
15
@Override
16
public void onWeatherError(WeatherLibException t) {
17
18
}
19
20
@Override
21
public void onConnectionError(Throwable t) {
22
23
}
24
});

จะเห็นว่าใช้ WeatherRequest เหมือนกับแบบแรก แต่ว่า Listener จะเปลี่ยนเป็น WeatherEventListener() แทน ส่วนเมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว เราจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่เราเลยครับ เนื่องจากว่า WeatherLib มันเตรียมพวกคลาส Model ต่างๆมาให้เราแล้ว เช่นคลาส Weather, Location , Temperature เราสามารถเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ได้หมด สุดท้าย ก็เหลือแค่จะเอาไปใส่ในเลเอาท์ยังไง อยู่ที่การออกแบบหน้าตาเลเอาท์แล้วครับ

สำหรับบทความนี้ก็ขอจบแค่นะครับ หากสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือดูโค๊ดตัวอย่าง ก็อ่านเพิ่มได้จากต้นฉบับเลยครับ และ Tutorial เพิ่มเติม

Reference

Authors
avatar

Chai Phonbopit

เป็น Web Dev ในบริษัทแห่งหนึ่ง ทำงานมา 10 ปีกว่าๆ ด้วยภาษาและเทคโนโลยี เช่น JavaScript, Node.js, React, Vue และปัจจุบันกำลังสนใจในเรื่องของ Blockchain และ Crypto กำลังหัดเรียนภาษา Rust

Related Posts