Gulp.js คืออะไร + มีประโยชน์อย่างไร + พร้อมวิธีใช้งาน
ปกติเวลาคุณเขียนเว็บไซต์ เสียเวลาไปกับการ minify css, แปลง less เป็น css , รีเฟรซหน้าเว็บทุกๆครั้งด้วยตัวเอง อยู่หรือเปล่า บทความนี้จะพูดถึงเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้เราประหยัดเวลาในการทำเรื่องเหล่านี้ ถึงแม้ว่าปัจจุบัน จะมี IDE หรือ Text Editor หลายๆตัว ที่มีฟังค์ชันพวกนี้มาให้แล้วก็ตาม โดยตัวอย่างนี้จะใช้ gulp.js มาดูกันว่า gulp.js คืออะไร และเมื่อใช้แล้ว มันช่วยให้การทำงานของคุณเร็วขึ้นหรือไม่
ก่อนเขียนบนความนี้ผมลองค้นหาดูแล้ว และพบว่าหลายๆบทความที่เป็นภาษาไทย เขียนไว้ค่อนข้างดี ใครสนใจก็อ่านเพิ่มเติมได้ครับ
ส่วนบทความภาษาอังกฤษ คือส่วนที่ผมใช้อ้างอิงครับ ดูได้ที่ References
Gulp.js คืออะไร ?
Gulp เป็น Steaming Build System ที่ช่วยให้ทำงานแทนเรา เช่น สั่ง start server ให้อัตโนมัติ , refresh หน้าเว็บเพจทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงไฟล์, minify javascript หรือแปลง sass/less เป็น css เป็นต้น ลองคิดว่าเราต้องมาทำงานพวกนี้เอง งานเดิมๆ ซ้ำๆ คงจะเสียเวลาน่าดู นั่นแหละจึงเป็นที่มาของ Gulp
Gulp.js vs Grunt.js
ต้องมีหลายๆคนได้ยิน Gulp.js หรือ Grunt.js มาบ้าง และก็ต้องมีคนสงสัยว่า ทั้งสองต่างกันอย่างไร? จริงๆแล้ว ทั้ง Gulp.js และ Grunt.js ทำหน้าที่เดียวกันเลย คือช่วยทำงานแทนเรา แต่ว่า Grunt.js เกิดมาก่อน มี Plugins มากกว่า Community เยอะกว่า และใช้เวลา config ยากกว่า Gulp
ในขณะที่ Gulp ใช้การตั้งค่าที่ง่าย แม้ Plugin จะน้อยกว่า แต่ Plugin ส่วนใหญ่ก็มีเกือบหมดแล้ว เราคงไม่ใช้ Plugin เป็นพันๆ ในโปรเจ็คเดียวหรอก จริงไหม :) สำหรับ Plugin ของ Gulp ทั้งหมด ดูได้ที่นี่ Gulp.js Plugin
Step 1 : เริ่มต้นใช้งาน Gulp.js
ก่อนใช้งาน Gulp.js ต้องให้แน่ใจก่อนว่าติดตั้ง Node.js เรียบร้อยแล้ว เพราะว่าทุกการติดตั้งและใช้งาน จะต้องมี Node.js และ npm
ติดตั้ง gulp แบบ global
Step 2 : Create new Project
ทดลองสร้างโปรเจ็คขึ้นมา 1 โปรเจ็ค ข้างในประกอบไปด้วยไฟล์ main.css
, package.json
2 ไฟล์
ไฟล์ main.css
ไฟล์ package.json
ตั้งชื่อโปรเจ็คและเวอร์ชั่น
จากนั้นทำการติดตั้ง gulp แบบ local ภายในโปรเจ็คของเรา
Step 3 : Create gulpfile.js
ทำการสร้าง gulpfile.js
ขึ้นมา ไฟล์นี้จะเอาไว้กำหนดสิ่งที่เราจะให้ gulp มันทำงานแทนเรา ต่อไปจะขอเรียกว่า Task โดยไฟล์ gulpfile.js
จะมีโค๊ดประมาณนี้
- โค๊ดด้านบน เป็นการกำหนด Task ชื่อ
sayHello
และกำหนดให้ Task นี้จะทำอะไร ในที่นี้คือconsole.log('Hello World');
เท่านั้น
ทดสอบ รัน gulp ด้วย command line (วิธีคือ พิมพ์ gulp TASKNAME
)
จะได้ผลลัพธ์ประมาณนี้
Step4 : Add First Gulp Plugin
ลองใช้ Plugin แรกกันเลยครับ Task นี้จะเป็นการ minify css โดยใช้ Plugin gulp-minify-css
จากนั้น เพิ่มโค๊ดในไฟล์ gulpfile.js
ดังนี้ (เป็น Task สำหรับ minify css 1 Task)
ทดสอบ รัน Task gulp css
สังเกตว่าเราจะได้โฟลเดอร์ assets
และมีไฟล์ main.css
ถูก minify แล้วแบบนี้
Step 5 : gulp-rename
Task ที่สองคือ gulp-rename จะเอาไว้เปลี่ยนชื่อไฟล์ เช่น Task ด้านบน เราทำการ minify css แล้วแต่ชื่อมันเหมือนเดิมเลย
เราจะเปลี่ยนให้มันเป็น main.min.css
ดังนี้
สั่งรัน gulp css
อีกรอบ จะเห็นไฟล์ main.min.css
Step 6 : gulp-uglify
Task นี้จะเป็นการ minify javascript ด้วย gulp-uglify การทำงานเหมือนกับ gulp-minify-css เลย ต่างกันแค่อันนี้จะ minify javascript
ต่อมา เพิ่มไฟล์ main.js
เข้ามาในโปรเจ็ค เพื่อทดสอบการทำงาน
เพิ่ม Task gulp-uglify
ในไฟล์ gulpfile.js
ทดสอบรัน gulp js
แล้วดูผลลัพธ์ที่โฟลเดอร์ assets
จะได้ไฟล์ main.min.js
gulp.src()
: เราสามารถใช้ _ หรือ array กรณีที่มีไฟล์ .js หรือ .css หลายๆไฟล์ โดยใช้_.js
,\*.css
หรือจะใช้เป็น array ก็เช่น
Step 7 : Watch the Tasks
ต่อมารู้จักกับ gulp watch กันดีกว่า เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ เราใช้วิธีพิมพ์คำสั่งเพื่อรัน gulp บน command line แล้วมันต่างอะไรกับการไม่ใช้ gulp กันละ ? คำตอบคือ เราสามารถใช้ watch เพื่อเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงไฟล์ หากไฟล์มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ ก็สั่งให้มันรัน task ที่เรากำหนดไว้เลย ทีนี้เราก็ไม่ต้องมาพิมพ์คำสั่งทุกๆครั้งแล้ว เช่น ทุกครั้งที่แก้ไขไฟล์ css หรือ js ก็ให้มัน minify และ uglify ให้อัตโนมัติเลย ทีนี้ชีวิตสบายขึ้นละ :)
เพิ่ม Task ใหม่ในไฟล์ gulpfile.js
- วิธีการทำงานคือ เราใช้
gulp.watch()
: เพื่อดูไฟล์main.css
หากมีการเปลี่ยนแปลงไฟล์ มันก็จะไปรัน Task ชื่อcss
เช่นเดียวกันกับmain.js
หากมีการเปลี่ยนแปลงไฟล์ มันก็จะไปรัน Task ชื่อjs
ทดสอบรัน Task watch gulp watch
แล้วลองแก้ไขไฟล์ เพิ่ม/ลบ ข้อมูล แล้วสังเกตไฟล์ผลลัพธ์ใน assets
ดูครับ
Task watch จะถูกรันไว้จนกว่า เราจะกดยกเลิก Ctrl + c ต่างจาก Task อื่นที่เมื่อรันเสร็จ ก็จะจบการทำงานทันที
Step 8 : Default Task
สุดท้ายแล้ว เราสามารถที่จะกำหนด Default Task ก็ได้ เป้าหมายคือการรวมหลายๆ Task เข้าด้วยกัน และรัน Task ด้วยคำสั่งแค่ gulp
หากเรามี Task เป็นจำนวนมาก การสั่งรันทุกๆ Task คงไม่สนุกแน่นอน
ต่อไป เวลาสั่งรัน Task ก็แค่พิมพ์ gulp
มันก็จะรัน default task ให้ และเช่นกัน หากเราสั่ง gulp all
ก็จะรัน Tasks 3 Tasks
สรุป
หลังจากใช้ gulp.js ทำให้เราประหยัดเวลามากขึ้น ใช้เวลาไปเขียนโค๊ดได้มากขึ้น โดย gulp.js จะทำงานแทนเราเกือบหมดเลย สุดท้ายก็ยังมี Plugin อีกมากมายที่ยังไม่ได้พูดถึงในบทความนี้ครับ เช่น
- gulp-concat
- gulp-connect
- browser-sync
ลองไปศึกษาเพิ่มเติม และประยุกต์ใช้งานกันดูนะครับ :) สุดท้าย File ทั้งหมดที่ใช้ในบทความนี้ด้านล่างครับ
References
- Authors
-
Chai Phonbopit
เป็น Web Dev ในบริษัทแห่งหนึ่ง ทำงานมา 10 ปีกว่าๆ ด้วยภาษาและเทคโนโลยี เช่น JavaScript, Node.js, React, Vue และปัจจุบันกำลังสนใจในเรื่องของ Blockchain และ Crypto กำลังหัดเรียนภาษา Rust